ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี แม่ค้าจะปรับตัวอย่างไร จะขายของออนไลน์อะไรดี

ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคกับคนค้าคนขายเลยแม้แต่น้อย ถ้ารู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร และมีพฤติกรรมในการใช้จ่ายอย่างไร สิ่งหนึ่งที่คนขายของออนไลน์จะกลัวมากคือถ้าเศรษฐกิจไม่ดีแล้วยังจะมีคนมาซื้อของหรือเปล่า คำตอบคือ “ยังมี” เพียงแต่ลูกค้าอาจเปลี่ยนจากซื้อสินค้ามือ 1 มาเป็นมือ 2 มาดูกันว่าจะขายอะไรดี หรือสิ่งที่กำลังขายอยู่นั้นจะปรับตัวอย่างไรดี

ไม่ต้องขาย แค่เป็นตัวกลางแชร์ลิงก์แชร์สินค้า ก็หาเงินได้

เป็นอีกหนึ่งรูปแบบขายของแบบที่ไม่ต้องลงเงินแต่แค่ลงแรง ทุกวันนี้มีหลายแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้คนทั่วไปที่ไม่ได้เป็นคนขายโดยตรงเข้าไปแชร์ลิงก์สินค้า แล้วแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์จากราคาขาย มีตั้งแต่ 10% ขึ้นไป แชร์ผ่านช่องทางโซเชียลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เฟสบุ๊ก ยูทูป ไอจี พันทิพย์ หรือเว็บไซต์ต่างๆ ขึ้นอยู่กับเทคนิควิธีการของแต่ละท่านแต่ละคนว่าจะติดต่อกับโลกภายนอกอย่างไร ยิ่งถ้าทำเป็นคลิปรีวิวสินค้ายิ่งดึงความสนใจได้มาก สิ่งสำคัญของแนวคิดนี้ก็คือ แชร์แล้ว มีคนคลิ๊กซื้อ ไม่คืนสินค้า รับประกันว่าสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

ขายของมือสอง

เศรษฐกิจแบบนี้แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่มองหาช่องทาง “ประหยัดเงิน” ทางออกหนึ่งที่น่าสนใจเป็นสุดก็คือสินค้ามือสอง ลองหันไปรอบตัวมีอะไรที่สภาพดีและไม่ได้ใช้แล้วบ้าง เอามาปัดฝุ่น แล้วจับมาถ่ายรูปให้งดงาม ไม่ว่าจะเป็น หนังสือ กระเป๋า เสื้อผ้า ของใช้เด็ก หม้อไฟฟ้า โมเดลยอดมนุษย์ เอามาโพสต์ขายได้ทั้งหมด เรื่องการตั้งราคาก็ไม่ต้องคิดมาก พอใจที่ราคาไหนก็ตั้งราคานั้นเลย ส่วนใหญ่ของมือสองราคาจะลดลงมาได้ถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ยกเว้นของเก่าของโบราณของสะสม พวกนั้นยิ่งเก่ายิ่งแพง ก่อนจะโพสต์สำรวจตลาดกันก่อนว่าของใหม่มือหนึ่งเขาขายกันเท่าไหร่ แล้วของมือสองรุ่นเดียวกันเขาขายเท่าไหร่ ที่สำคัญโพสต์ขายให้ถูกที่ให้ถูกกลุ่ม ของเด็กโพสต์กลุ่มแม่และเด็ก เสื้อผ้าโพสต์กลุ่มเสื้อผ้า รับประกันได้ว่ามีคนอินบ็อกซ์เข้ามาถามหาสินค้ากันรัวๆ

เปลี่ยนจากซื้อมาขายไป เป็นผลิตสินค้า DIY ขายเอง

งานฝีมือ งานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ขายได้ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า หมอน ของใช้ในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และอื่นๆ อีกมากมาย ขึ้นอยู่กับจินตนาการสร้างสรรค์ของแต่ละคน นำเสนอถ่ายรูปสินค้าให้ชัดเจน ยิ่งถ้ามีคลิปวีดีโอประกอบชัดเจน โชว์ให้เห็นตั้งแต่เริ่มต้นทำจนถึงเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จจะดึงดูดความสนใจได้มาก ข้อดีของสินค้าประเภทนี้คือ ตั้งราคาได้สูงกว่าสินค้าแมสสินค้าโรงงาน เนื่องจากความประณีตบรรจง มีรูปร่างหน้าตาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นสินค้าที่มีชิ้นเดียวในโลกโดดเด่นไม่เหมือนใคร

เปลี่ยนจากขายสินค้าฟุ่มเฟือย มาเป็นสินค้าจำเป็น

รู้หรือไม่ว่าสินค้าอะไรที่ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดีเท่าไหร่ก็ยิ่งขายดี? ถ้าหากคุณทายว่าเป็นมาม่าหรือปลากระป๋อง ยินดีด้วยคุณทายถูกแล้ว… มันเป็นเรื่องที่เดาไม่ยากหรอก เพียงแต่ต้องแกะคีย์สำคัญให้ออกว่า ในช่วงไหนเราควรขายอะไร “นักขายที่เก่งไม่ใช่ขายสิ่งที่ตัวเองมีให้ได้ แต่นักขายที่เก่งต้องหาสินค้าที่ลูกค้าต้องการมาเสิร์ฟลให้ได้ต่างหาก” หัวใจสำคัญอยู่ที่การรู้จักยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้เสมอ ถ้าไม่ยิดติดว่าจะขายแต่สิ่งที่ตัวเองไม่ถนัด ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นแบบไหนจะหาสินค้าที่ขายได้ในสภาวะเหล่านั้นเสมอ

เปลี่ยนจากขายสินค้าที่เป็นวัตถุ มาเป็นขายความรู้ผ่านคอร์สออนไลน์

คนเรามีความชำนายเฉพาะตัวไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง อย่ามองข้ามความรู้เหล่านี้สามารถแปลงเป็นเงินได้ ทำได้ตั้งแต่คอร์สทำอาหาร สอนใช้โปรแกรม สอนตัดต่อวีดีโอ สอนพูด และอื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าชำนาญเรื่องไหนก็สรุปเรื่องนั้น ทำออกมาให้เข้าใจง่าย ทำตามได้เร็ว สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายก็มีหลากหลาย ทั้งแพลตฟอร์มสำหรับขายความรู้จริงโดยเฉพาะ หรือทำเป็นกลุ่มลับบนโซเชียลก็มีเยอะ ก่อนจะเริ่มทำควรเข้าไปสำรวจตรวจดูคอร์สของคนอื่นเป็นแนวทาง เข้าไปดูตามเพจที่สอนฟรี หรือจะเริ่มจากสอนฟรีเองเลยก็ได้ จะได้รับฟีดแบคของลูกค้าในอนาคตล่วงหน้า ใช้เป็นแนวทางต่อไปในอนนาคต

ถึงแม้การค้าขายแบบออนไลน์จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็อย่าลืมว่าต้องปรับเปลี่ยนไปตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนไปด้วย จึงทำให้ผ่านไปได้ในทุกสภาวะทางการตลาด และที่สำคัญคือการให้บริการลูกค้าต้องทำให้ประทับจิตประทับใจมากที่สุด จึงจะซื้อหากันต่อไปได้ยาวนานและยั่งยืน