หน้าแรก ธุรกิจส่วนตัว 4 คำถามที่ต้องตอบให้ได้ก่อนคิดจะทำธุรกิจ

4 คำถามที่ต้องตอบให้ได้ก่อนคิดจะทำธุรกิจ

250

คำว่า “ธุรกิจส่วนตัว” คือหนึ่งความฝันของคนกว่าค่อนประเทศ บางคนอาจโชคดีหน่อยที่มีทุนเดิมเป็นธุรกิจจากรุ่นพ่อแม่ปูทางไว้ให้เราได้สานต่อ บางคนก็เริ่มลงมือทำตามความฝันของตนเองบ้างแล้ว ส่วนบางคนก็ได้เพียงคิดมานานหลายปี แต่ก็ไม่กล้าลงมือทำมันสักที

ก็แน่ล่ะเพราะในโลกของความเป็นจริงการทำธุรกิจมันไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น สำหรับใครที่คิดอยากจะทำธรุกิจของตัวเองให้เป็นจริงสักครั้ง 4 คำถามเหล่านี้ คือสิ่งที่คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนลงมือทำ

คุณหรือธุรกิจของคุณมีความยืดหยุ่นมากน้อยแค่ไหน

1. คุณหรือธุรกิจของคุณมีความยืดหยุ่นมากน้อยแค่ไหน

เค้าว่ากันว่าหัวใจของการทำธุรกิจ คือ “เป้าหมายต้องชัดเจน แต่วิธีการต้องยืดหยุ่น”

  • เป้าหมาย มีไว้เพื่อกำหนดทิศทาง เพื่อที่จะทำให้เราไม่หลงทาง (เพราะระหว่างทางจะมีทั้งปัญหา และความท้าทายต่างๆเข้ามาทำให้คุณไว้เขวได้)
  • แต่สำหรับ “วิธีการ” นั้นบางครั้งจะต้องปรับไปตามสถานการณ์ ตามเหตุบ้านการเมือง หรือปัจจัยอื่นๆที่มีความสำคัญกับธุรกิจของคุณ

ยกตัวอย่างภาพกว้างๆ กับวงการสื่อและสิ่งพิมพ์ทั้งหลาย จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าสื่อแนวเดิมไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์หรือนิตยสารได้รับความนิยมลดลงไปอย่างมาก และในอนาคตก็จะยังมีแนวโน้มที่ลดลงเรื่อยๆ

สิ่งที่หลายแบรนด์ทำคือเป้าหมายในการเป็นตัวกลางนำเสนอข่าวสารยังคงอยู่เหมือนเดิม แต่จะเห็นได้ว่ามีการปรับเปลี่ยนรูปแบบมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มช่องทาง Social Media ที่คนไทยนิยม การทำข่าวภาคสนามแล้วถ่ายทอดสด เป็นต้น

ธุรกิจของคุณเองก็เช่นกัน หากอยากทำธุรกิจให้สำเร็จต้องพร้อมที่จะปรับตัว ปรับแนวคิด หรือกระบวนการบางอย่างเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้

2. คุณมีแผนงานที่ชัดเจนมากน้อยแค่ไหน

แน่นอนว่าพื้นฐานสำคัญก่อนที่จะทำธุรกิจต้องมาเช็คกันก่อนว่าคุณมีความพร้อมมากแค่ไหน สิ่งที่มักจะใช้ชี้วัดกันนี้ก็คือ “แผนงาน” ซึ่งคำว่าแผนงานในที่นี้ไม่ได้มีแค่ แผนการตลาด โปรโมชั่น หรือวิธีการขายเท่านั้น

แต่มันยังหมายถึงการวางแผนการบริหารลูกน้อง การวางแผนกระบวนการผลิต การจัดการกับซัพพลายเออร์ การบริหารการเงินซึ่งยังแตกย่อยออกไปได้อีกเป็น กระแสเงินสด เงินทุนหมุนเวียน หนี้สิน ไปจนถึงการมีแผนสำรอง(หลายทาง) และถ้าจะให้ดีควรมีที่ปรึกษาที่เชื่อถือได้ด้วย

ไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างก็ได้ แต่คุณจำเป็นต้องบริหารให้เก่ง

3. ไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างก็ได้ แต่คุณจำเป็นต้องบริหารให้เก่ง

การทำธุรกิจสมัยก่อน คนเพียงคนเดียวอาจจะสามารถดูแลธุรกิจได้แถมยังทำให้ได้เปรียบในบางเรื่อง เช่น การรักษาสูตรลับของธุรกิจหรือการประหยัดต้นทุน แต่สำหรับยุคนี้บอกเลยว่าใครที่ยังทำธุรกิจโดยที่ทำทุกอย่างเพียงคนเดียวถือว่ามีความเสี่ยงที่สูงมาก

เพราะสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจในสมัยนี้คือความรวดเร็วในการให้บริการและความสามารถในการเข้าถึงของลูกค้า สำหรับกิจกรรมใดที่จะสามารถสอนหรือจ้างผู้อื่นมาทำแทนได้ ก็ควร Outsource ออกไปดีกว่า แล้วให้คุณ Focus กิจกรรมหลักที่สำคัญที่สุดที่เป็นจุดแข็งในธุรกิจของคุณ

4. คุณขาดทักษะหรือมีความกลัวเรื่องอะไรบ้าง

แน่นอนความฝันที่สวยหรูทุกคนคิดออกอยู่แล้วล่ะ และถึงแม้ว่าคุณจะคิดถึงผลในทางลบที่อาจเกิดขึ้นเอาไว้บ้างแล้ว แต่เชื่อได้เลยว่าความเป็นจริงมันมักจะเกิดปัญหามากกว่าที่เราจินตนาการเอาไว้เสมอ บางครั้งปัญหาก็เข้ามาหลายเรื่องพร้อมกัน ทั้งเรื่องเงิน เรื่องคน สินค้าไม่ได้คุณภาพ ลูกค้าไม่พอใจ ทั้งปัญหาจุกจิกเล็กขี้ปะติ๋วไปจนถึงเรื่องใหญ่

และเวลาเกิดเหตุการณ์แบบนี้คนส่วนใหญ่จะเครียดจนควบคุมอะไรไม่ได้เลย ยิ่งถ้าไม่รู้จุดอ่อนของตัวเอง บอกได้เลยว่าคนที่ใจไม่แข็งตั้งรับไม่เก่งพอ ต้องร้องไห้แล้วพับความฝันเก็บกระเป๋ากลับบ้านแน่นอน

“นี่คือเหตุผลที่คุณต้องค้นหาจุดอ่อนของตัวเองให้เจอ” การที่อย่างน้อยคุณรู้ตัวว่าคุณกลัวเรื่องอะไรมากที่สุด อย่างเช่น คุณจะต้องเครียดจนเป็นบ้าแน่ๆถ้าเงินเก็บต้องหมดตัว หรือคุณรู้ว่ามีจุดอ่อนด้านการบริหารคน พอรู้อย่างนี้จะได้เตรียมหาวิธีการรับมือได้ถูกทาง หรือดีกว่านั้นอาจจะหาคนที่มาช่วยซัพพอร์ทคุณได้

สำหรับเคล็ดลับในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น กระบวนการ “PDCA” หรือ (Plan, Do, Check, Action) ยังคงใช้งานได้เสมอ วางแผนอะไรไปแล้ว ได้ลงมือทำอะไรไปแล้ว ต้องหมั่นเช็คว่าวิธีการเหล่านั้นมันเวิร์คหรือไม่ ถ้าหากวิธีการใดที่ไม่เวิร์คเราก็สามารถปรับเปลี่ยนได้เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า และอย่ามองข้ามผู้ใต้บังคงคับบัญชาเหล่าผู้ที่ปฏิบัติงานจริง คุณสามารถสอบถามข้อมูลฟังข้อเท็จจริงจากการทำงานที่ผ่านมา เพื่อนำมาปรับแผนการทำงานที่ดีต่อไป